..หลักการและเหตุผล ..
ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ของประเทศสมาชิกก่อตั้ง
และเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน ไทยมีบทบาทอย่างแข็งขันในกิจกรรมของอาเซียนตลอดมา
รวมทั้งยังมีส่วนผลักดันให้อาเซียนมีความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ
การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน ASEAN Regional Forum สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์
ฯลฯ
ในขณะเดี่ยวกัน
อาเซียนก็มีความสำคัญต่อประเทศไทย โดยนอกจากจะสร้างพันธมิตรและความเป็นปึกแผ่น
ตลอดจนเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคแล้ว
ยังช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองในการเจรจาระหว่างประเทศ
และร่วมมือกันในการแก้ปัญหาข้ามชาติ นอกจากนั้น
ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจของอาเซียน
ได้เปิดโอกาสให้มีการขยายตัวทางด้านการค้าและการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
ซึ่งจะนำผลดีมาสู่เศรษฐกิจของประเทศไทย ในปัจจุบัน
กลุ่มประเทศอาเซียนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในปี 2007 มูลค่าการค้าไทยกับอาเซียนมีถึง 57,592 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เป็นอย่างมาก และจากการที่กำลังจะมีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้นในปี 2015 จะก่อให้เกิดการรวมตัวกันทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรมภายในภูมิภาค ทำให้ส่งผลกระทบต่อไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้น
ประเทศไทยจำเป็นต้องตั้งรับต่อการร่วมตัวดังกล่าว
ดังนั้น
จากการประชุมคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2554 ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบในหลักการถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างส่วนราชการเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน
ในปี พ.ศ. 2558
โดยให้ทุกหน่วยงานมีหน่วยงานเฉพาะสำหรับดูแลงานด้านอาเซียน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการประสานงานเกี่ยวกับอาเซียนระหว่างหน่วยงานของไทย
ซึ่งมหาวิทยาลัยบูรพา
ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาหลักของไทย จึงมียุทธศาสตร์หลัก ในแผนกลยุทธ์ฯ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) ในการที่จะ
1.จัดการศึกษาที่ได้มาตรฐานสากล
โดยปรับทุกหลักสูตรให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับความต้องการของประเทศและสอดรับกับความสำคัญที่ทวีมากขึ้นของเอเชีย
และประชาคมอาเซียน
2.ขยายบทบาทความเป็นผู้นำความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบต่างๆอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นกับมหาวิทยาลัยชั้นนำใน
ASEAN และเอเชีย
3.สร้างงานวิจัยที่ได้มาตรฐานสากล
และแก้ไขปัญหาของสังคมด้วยการเพิ่มงบปริมาณวิจัย
งบสนับสนุนการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำระดับชาติ การสร้างเครือข่ายพี่เลี้ยงและกลุ่มนักวิจัยคุณภาพสูง
ตลอดจนการผลักดันให้เกิดวารสารวิชาการใหม่ๆในระดับ ASEAN หรือเอเชีย
ดังนั้น
จึงเห็นสมควรที่จะได้มีการริเริ่มจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ก้าวสู่อาเซียนขึ้น
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการศึกษาวิจัย เผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับอาเซียนสู่สาธารณชน
รวมทั้งเป็นเครือข่ายและคลังสมองด้านอาเซียนศึกษา
และเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ
และบทบาทของไทยในการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น